ย้อนกลับไปยังซัมเมอร์ ปี 2009 บาร์เซโลน่า กลายเป็นทีมลำดับต้นๆ ของโลก กับยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการกวาดแชมป์ทุกรายการที่มีส่วนร่วม ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดประวัติศาสตร์ขอวงการฟุตบอล แต่ทีมก็ยังมีปัญหาเรื่องการเสริมทัพ หลังประสบความสำเร็จไปแล้วเหมือนกัน
บาร์ซ่ากวาดแชมป์ลาลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, โคปา เดล เรย์ ต่อด้วยสแปนิช ซูเปอร์ คัพ, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และสโมสรโลก โดยสามรายการหลังเป็นการตัดสินใจทุ่มเงินมหาศาลในการคว้า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไปร่วมทีม แม้จะนำซามูเอล เอโต้ เข้ามาอยู่ในข้อเสนอ แต่ก็รวมกับเงินจำนวนหนึ่งด้วย แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะจบไม่สวยอย่างที่หวัง เมื่อกลับมีปัญหากับนายใหญ่ชาวคาตาลัน โดยบทความนี้จะย้อนกลับไปดูนักเตะที่ย้ายมาร่วมทีมพร้อมกันว่าจะเป็นอย่างไร
แม็กซ์เวลล์
เพื่อนสนิทของอิบราโมวิช เมื่อตอนที่เล่นให้กับอินเตอร์ หลังจากเคยเล่นด้วยกันมาที่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และสุดท้ายก็ยังได้เล่นทีมเดียวกันอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อีกด้วย โดยแม็กซ์เวลล์ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบ็คที่ดีที่สุดประวัติศาสตร์ด้วย หลังสร้างผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจกับหลายทีม ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดในปี 2017 เป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะ คว้าแชมป์ตลอดเส้นทางการค้าแข้งถึง 33 รายการ โดยแบ็คชาวบราซิลเล่นให้กับบาร์ซ่า 2 ฤดูกาลครึ่ง คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย และเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2010-11
แคร์ริสัน
นักเตะถูกดึงตัวมาจากพัลไมรัส แต่กลับไม่สามารถสร้างผลงานที่น่าประทับใจได้เลย แม้จะเป็นนักเตะชาวบราซิล และทีมต่างมีนักเตะที่ยอดเยี่ยมมากมายในสัญชาตินี้ ทั้ง เนย์มาร์, โรนัลดินโญ่, โรนัลโด้ และริวัลโด้ หรือแม้แต่มัลค่อม ซึ่งเจ้าตัวย้ายมายังถิ่นคัมป์ นู ด้วยค่าตัวถึง 14 ล้านยูโร พร้อมกับสัญญา 5 ปี แต่กลับไม่เคยลงสนามให้กับทีมเลยสักเกม
ดมิโทร ชีกรีนสกี้
หนึ่งในกองหลังชาวยูเครน ย้ายมาพร้อมกับความคาดหวัง เมื่อตอนที่ถูกคว้าตัวมาจากชัดตาร์ โดเน็ตต์ส กับทีมในยุคทองเมื่อมีนักเตะอย่าง แฟร์นานดินโญ่, วิลเลี่ยน และเฮนริค มคิตาร์ยาน แต่เจ้าตัวก็ต้องพยายามอย่างหนักในกาหาโอกาสลงสนามให้กับทีม แต่สุดท้ายใช้เวลากับทีมเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น ลงสนามไปเพียง 14 เกมจากทุกรายการ แม้จะย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 25 ล้านยูโร
