ยุคของ ราล์ฟ รังนิค กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังประเดิมคุมทีมเกมแรก และเปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปด้วยสกอร์ 1-0 ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย เฟร็ด เป็นคนทำประตูชัยให้กับทีมก่อนหมดเวลา 13 นาที ทั้งรูปเกม และการครองบอล สถิติต่างๆ ของทีมออกมาดีกว่าทั้งหมด
แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมองหาช่วงเวลาในการสร้างทีม รวมถึงการยกระดับการเล่นขึ้นมาเป็นแถวหน้าของวงการฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง เมื่อเก็บคะแนนได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ไมเคิ่ล คาร์ริค เข้ามาคุมทีมชั่วคราวก่อนหน้านี้ และยังชนะอาร์เซน่อล ไปได้ จนปัจจุบันทีมรั้งอันดับ 6 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก มีคะแนนห่างจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด อันดับ 4 เพียง 3 คะแนน โดยเหลือเกมให้เล่นอีกถึง 23 เกมด้วยกัน
บทความนี้พวกเราจะพาไปดูสถิติที่น่าประทับใจกับการประเดิมคุมแมนฯ ยูไนเต็ด เกมแรกของรังนิค มาดูกันว่า สถิติที่น่าสนใจจะเป็นยังไงกันบ้าง และมีทิศทางที่ดีสำหรับทีมขนาดไหน
แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีตในบ้านได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกมที่ชนะกรานาด้า ด้วยสกอร์ 2-0 ในยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นับเป็นเวลา 234 วัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านบอลในพื้นที่สุดท้ายของพาเลซ ถึง 77 ครั้งในเกมนี้ นับเป็นสถิติที่มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะในการครองบอลพื้นที่สุดท้าย 12 ครั้ง มากที่สุดนับตั้งแต่พวกเขาทำได้ตั้งแต่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ
แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านบอล และสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของคู่แข่งมากที่สุดด้วย
เฟร็ด ยกระดับการเล่นขึ้นมาได้อย่างชัดเจน โดยนอกจากนักเตะจะทำประตูชัยในเกมนี้ เฟร็ด ชนะในการดวลแย่งบอล 7 จาก 9 ครั้ง และยังผ่านบอลยาวสำเร็จ 5 จาก 6 ครั้ง
เฟร็ด มีค่าเฉลี่ยในการได้คะแนนจาก Whoscored สูงที่สุดถึง 8.51 คะแนน จากการลงสนามในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
หลังจากผ่านไป 30 นาทีในเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสทำประตูถึง 10 ครั้ง ซึ่งมากกว่าเกมที่ทีมบุกไปแพ้วัตฟอร์ด ด้วยสกอร์ 4-1 ทั้งเกม
มีเพียงเฟร็ด และวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ไม่สามารถสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีมในเกมนี้ได้ในครึ่งแรก หากไม่นับผู้รักษาประตู
รังนิค กลายเป็นผู้จัดการทีมของแมนฯ ยูไนเต็ด คนที่ 4 ที่คุมทีมชนะในพรีเมียร์ลีกได้ตั้งแต่เกมแรก ต่อจากเดวิด มอยส์, โชเซ่ มูรินโญ่ และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
