การย้ายทีมที่อาจจะสะเทือนวงการฟุตบอล

การย้ายทีมที่อาจจะสะเทือนวงการฟุตบอล

ในโลกของฟุตบอลนั้นมีการแข่งขันที่มาตรฐานค่อนข้างสูง โลกของฟุตบอล ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญ ที่นอกจากแฟนบอลแล้ว อีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือเม็ดเงินที่หมุนเวียน และเป็นตัวขับเคลื่อนให้โลกของฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถ้าจะพูดว่าฟุตบอลคือธุรกิจก็คงไม่ผิดไปมากนัก เสนห์ความน่าสนใจของโลกฟุตบอลอีกอย่างหนึ่ง ก็คือการย้ายตัวของผู้เล่นไปยังอีกสโมสรหนึ่ง การย้ายทีมครั้งหนึ่งอาจจะส่งผลดีกับอีกสโมสรหนึ่งที่จะได้ตั้งหน้าตั้งตารอชมนักเตะใหม่ของพวกเขา แต่อีกกลุ่มก็อาจจะโกรธแค้น ถึงขั้นประท้วง เผาเสื้อเผาพริกเผาเกลือยังมีให้เห็น วันนี้เรามาดูว่าถ้าการย้ายของตัวผู้เล่นในวันนั้นเกิดขึ้นจริงๆ โลกของฟุตบอลอาจจะเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันนี้อย่างไร

5 นักเตะ ที่ทำช็อกวงการลูกหนัง

1. หลุยส์ ซัวเรส ไป อาร์เซน่อล

ซัวเรส ย้ายมา ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 22.8 ล้านปอนด์จาก อาแจ็กซ์ หน้าหนาวปี 2011 ซัวเรส ใช้เวลาไม่นาน เขาก็กลายเป็นขวัญใจของเดอะค็อป ซัวเรส มีผลงานที่ดีมากโดยในฤดูกาลหนึ่งเกือบพา ลิเวอร์พูล สอยแชมป์ลีกด้วยผลงาน 31 ประตู ลงสนาม 38 นัด ต่อมา ซัวเรส ก็ต้องเจอเรื่องราวแย่ๆ เมื่อเขาต้องสงสัยเหยียดผิว เอฟร่า ส่งผลให้เขาโดนแบนโดย FA 10 นัด ไหนจะเป็นการกัด บานิสลาฟ อิวาโนวิช อีก และต่อมาฤดูร้อนปี 2013 อาร์แซน เวนเกอร์ เห็นว่าค่าฉีกสัญญา ซัวเรส คือ 40 ล้านปอนด์ แต่ไม่รู้ อาร์เซน่อล คิดตลกอะไรอยู่ ยื่นเงินตามออฟชั่นฉีกสัญญา ซัวเรส ถึง 40+1 ล้านปอนด์ และดูเหมือนนักเตะจะเป็นใจด้วย สำหรับทางฝั่ง ลิเวอร์พูล แล้วมันไม่ใช่เรื่องตลก ต่อมา บาร์เซโลน่า พี่แกจริงจังกว่ายื่นมา 64.98 ล้านปอนด์ และ ซัวเรส ก็เก็บข้าวของย้ายไปคว้าแชมป์ปีแรกกับ บาร์ซ่า ได้สำเร็จ หากลองคิดเล่นๆ ถ้า ซัวเรส ย้ายไป อาร์เซน่อล จริงๆ อาร์เซน่อล ซึ่งกำลังขาดแคลนศูนย์หน้า ทีมปืนใหญ่คงไปได้ไกลกว่านี้ และถ้าเขายังค้าแข้งในอังกฤษอยู่ระดับฝีเท้าของ ซัวเรส จะสามารถยกระดับลีกของอังกฤษได้อย่างแน่นอน

โรนัลดิญโญ่

2. โรนัลดิญโญ่ ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เหยินน้อย นักเตะที่ได้ชื่อว่ามีพรสวรรค์มากคนหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นการสไตล์การเล่นส่วนตัว ที่น่าชวนดูแล้ว ลีลาการหลอกผู้เล่น หรือการคิลเลอร์พาส และที่สำคัญรอยยิ้มบนใบของ โรนัลดิญโญ่ แล้ว นี่แหละคือบุคคลของโลกฟุตบอลอย่างแท้จริง ในปี 2003 “ผมอยากย้ายไปสโมสรใหญ่ๆอย่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด” โรนัลดิญโญ่ ให้สัมภาษณ์อย่างน่าตื่นเต้น เพราะได้รับการเชิญชวนจากท่านเซอร์ให้ไปค้าแข้งที่อังกฤษ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนของเหยินน้อยแนะนำให้พี่แกย้ายไปคัมป์นูส่ะ เพราะเพื่อนเขาคิดว่าที่สเปน เหมาะกับ โรนัลดิญโญ่ มากกว่า และมีโอกาสที่จะสามารถคว้าบัลลงดอร์ได้ด้วย ทีมของ เซอร์ อเล็กเฟอร์กูสัน เป็นทีมที่ดี แต่ด้วยแท็กติก และความดุดันของลีกแล้วมันอาจจะไม่เหมาะสมกับสไตล์ของ โรนัลดิญโญ่ ที่อาจจะไม่สามารถโชว์ลีลาแพรวพราวได้ อาจจะโดนเตะเจ็บหนัก และอาจจะไม่เปรี้ยงปร้างแบบที่เราๆ เห็นก็ได้

สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด

3. สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ไป เชลซี

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่อยู่ ลิเวอร์พูล สมัยดาวรุ่ง จนกระทั่งเป็นถึงกัปตันทีม นี่คือนักเตะระดับตำนาน และความน่าภาคภูมิใจของสโมสร ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง แต่เมื่อปี 2004 มูริญโญ่ อยากได้กองกลางทีมชาติอังกฤษมาจับคู่กับแฟร้งแลมพาร์ด ด้วยข้อเสนอ 20 ล้านปอนด์สำหรับกัปตันทีม ลิเวอร์พูล และดูเหมือน เจอร์ราร์ด ก็สนใจเช่นกัน แต่ก็ต้องโดนผู้เป็นพ่อเบรคไว้เนื่องจากปีนั้น ลิเวอร์พูล มีรายการยุโรปให้ขั้วอยู่ และหนึ่งปีต่อมา เชลซี ก็ไม่ลดละความพยายามลง อัพข้อเสนอสำหรับกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เป็น 32 ล้านปอนด์ และ เจอร์ราร์ด ก็ดูเหมือนจะตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับทาง เชลซี ได้แล้ว เขาเตรียมทิ้งเรื่องราวของ ลิเวอร์พูล ไว้ด้านหลังแล้ว แต่ต่อมา เจอร์ราร์ด ก็เปลี่ยนใจกะทันหันและมุ่งหน้าไปยัง ลิเวอร์พูล เพื่อขีดเขียนประวัติศาสตร์ต่อไป คาดกันว่าถ้า เจอร์ราร์ด ย้ายไป ยืนคู่กับ แลมพาร์ด คงไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะดูเหมือนตำแหน่งของทั้งคู่น่าจะทับกัน ดูฟอร์มได้จากผลงานทีมชาติอังกฤษ และถ้า เจอร์ราร์ด ย้ายไป เชลซี เราคงไม่เห็นยอดมิดฟิดล์เยอรมันที่ชื่อ มิคาเอล บัลลัค ผู้นำความสำเร็จมาสู่ เชลซี

ดิเอโก้ มาราโดน่า

4. ดิเอโก้ มาราโดน่า ไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

ใครๆ ก็ต้องคุ้นกับข่าวนี้กันบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อนักเตะที่ยิ่งใหญ่อย่างเสือเตี้ย มาราโดน่า เตรียมจะย้ายไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ย้อนไปเมื่อตอน มาราโดน่า ยังคงเป็นวัยรุ่น อายุ 17 ปี แฮร์รี่ ฮาสแลม กุนซือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ระหว่างเดินทางไปอาร์เจนติน่าในปี 1978 เขาได้พบเจ้าหนู มาราโดน่า และฮาสแลมต้องการจะเซ็นสัญญาดาวรุ่งวัย 17 คนนี้ แต่ค่าตัวสำหรับเด็กวัย 17 ปีกับค่าตัว 200,000 ปอนด์ ณ ตอนนั้นถือว่าแพงเอามากๆ ทีมดาบคู่เลยชวดเซ็นเสือเตี้ยและไปเซ็น ซาเบลล่า กุนซืออาร์เจนติน่าคนปัจจุบัน มาแทนในราคา 160,000 ปอนด์ ต่อมา มาราโดน่า ก็ฉายแสงออกมาพา โบค่า จูเนียร์ บาร์เซโลน่า และ นาโปลี ประสบความสำเร็จกมากมาย และแชมป์โลกกับอาร์เจนติน่า เขาสถาปนาตัวเองกลายเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่เท่าที่โลกเคยมีมา ณ ตอนนั้นเลย แต่มันก็คงเป็นภาพที่แปลกออกไปทันที ถ้า มาราโดน่า ย้ายไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แทนละ เราคงจะไม่ได้รู้จักนักเตะอีซ้ายที่มีพรสวรรค์จากพระเจ้ามากมายอย่าง มาราโดน่า ก็ได้

ซีเนอดีน ซีดาน

5. ซีเนอดีน ซีดาน ไป นิวคลาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์

เราคงจะนึกภาพไม่ออก ถ้าซีดานจะไม่ได้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง ซีดาน เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับ บอร์กโดซ์ ทีมในบ้านเกิด และต่อมาในปี 1996 ซีดาน มีโอกาสที่จะได้โชว์ฝีเท้าที่อังกฤษลีกดังของยุโรป โดย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และต่อมา นิวคาสเซิ่ล ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากับ ซีดาน จากค่าตัว 1.2 ล้านปอนด์เอาสะดื้อๆส่ะงั้น เพียงเพราะเหตุผลว่าไอ้หนุ่มฝรั่งเศสคนนี้ยังไม่ดีพอกับสโมสร อืม แต่ นิวคาสเซิ่ล ไม่ใช่ทีมเดียวในเกาะอังกฤษที่ปฏิเสธ ซีดาน ในปี 1995 แจ็ค วอล์คเกอร์ เจ้าของสโมสร แบล็คเบิร์น โรเวอร์ ก็ปฏิเสธ ซีดาน เช่นกัน “ทำไมเราต้องเซ็นเขามาล่ะ ก็ในเมื่อแดนกลางเรามี ทิมเชอร์วู้ด อยู่แล้ว”(บร๊ะ!!!) แจ็ค วอล์คเกอร์ กล่าว สุดท้าย ซีดาน ลงเอยกับ ยูเวนตุส และ ซีดาน ก็โชว์ว่าเขาเหมาะกับค่าตัว 1.2 ล้านปอนด์ยังไง ด้วยการได้รับรางวัล บัลลงดอร์ ปี 1998 แชมป์ฟุตบอลโลก 98 และคว้าแชมป์ยูโรปี 2000 และยังมีความสำเร็จกับ เรอัล มาดริด อีก โดยในปี 2001 ซีดาน ย้ายจาก ยูเว่ มา มาดริด ด้วยค่าตัวสถิติโลกในยุคนั้นทันที ซีดาน ประสบความสำเร็จมากมาย และต่อมายังได้เป็นกุนซือของ เรอัล มาดริด โดยสามารถพาทีมคว้าแชมป์ แชมป์เปี้ยนลีก 2 ครั้ง ใน 2 ปีได้ เรียกง่ายๆว่าประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะ และผู้จัดการทีมจริงๆ คงเป็นเรื่องยากจริงๆ ถ้าจะให้นึกภาพ ซีดาน ถ้าย้ายไป นิวคาวเซิ่ล หรือ แบล็คเบิร์น จริงๆ

เนื้อหาใกล้เคียง