เจมี คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังชุดแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005 กล่าวถึงเกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแธมป์ตัน ไปได้ 3-1 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงประตูตีเสมอของ นาบี เกอิต้า ในนาทีที่ 36 ว่าเป็น ‘ประตูที่สำคัญ’ ที่ทำให้ หงส์แดง ยังคงอยู่บนเส้นทางการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซันนี้
เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการส่งกองกลางทีมชาติกีนี ลงสนามตั้งแต่เริ่มเกม โดยประสานงานร่วมกับ ฟาบินโญ และ จีนี ไวจ์นัลดุม แต่กลายเป็นทีมนักบุญ ซึ่งเกมนี้ลงเล่นในฐานะเจ้าบ้านได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 9 จาก เชน ลอง ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีสถิติที่ย่ำแย่ในการพังประตูคู่แข่งโดยยิงได้เพียง 2 ลูกจาก 38 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก
จากนั้นในช่วงก่อนหมดเวลา 9 นาที เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้จังหวะครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น เกอิต้า ที่ขึ้นโหม่งบอลกระดอนข้ามเส้นเข้าประตู แม้ว่าทาง แองกัส กันน์ นายทวารของ เซาแธมป์ตัน จะปัดออกมาได้ แต่ก็ไม่ทันกาลทำให้ ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอก่อนหมดเวลาครึ่งแรกได้สำเร็จ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะมาปลดล็อกทำประตูที่ 50 ใน พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในนาทีที่ 80 และเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่มายิงประตูย้ำชัยชนะในอีก 3 นาทีต่อมา ช่วยให้ หงส์แดง เก็บ 3 คะแนนสำคัญกลับไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
คาร์ราเกอร์ กล่าวถึงประตูของ เกอิต้า หลังจบเกมว่า “เกอิต้า ออกสตาร์ทการค้าแข้งของเขากับ ลิเวอรืพูล แบบเงียบ ๆ มาโดยตลอด แต่กับประตูที่สำคัญอย่างมากแบบนี้บางทีอาจจะไม่ใช่แบบที่เราเห็นแล้วก็ได้ บอลพุ่งด้วยความเร็วและเอาชนะผู้รักษาประตูได้ เขาแต่รักษาความเร็วของบอลนั้นไว้ เราไม่เคยเห็นเขาทำประตูในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ได้เลย แต่ประตูนี้มันกลายเป็นลูกที่สำคัญอย่างมาก” คาร์รา กล่าวกับ Sky Sports
