ลูก้า โมดริช กล่าวว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด มุ่งมั่นที่จะรักษาตัวเขาไว้ที่ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ก็ปฏิเสธที่จะหารือถึงความเป็นไปได้ในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปี 2018 มีสัญญากับแชมป์ยุโรปจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2020 โดยในเวลานั้น โมดริช จะมีอายุถึง 34 ปีแล้ว
นับตั้งแต่ที่พาทีมชาติโครเอเชียเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 และยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลก โมดริช ก็ตกเป็นข่าวว่าอาจจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ที่สโมสรหลังจากที่ย้ายมาร่วมทีมในเดือนสิงหาคม 2012 อย่างไรก็ตามกัปตันทีมชาติโครเอเชียบอกกับ Sportske Novosti “สิ่งเดียวที่แน่นอนสำหรับตอนนี้ก็คือ ผมจะอยู่กับมาดริดจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาของผม เปเรซ บอกผมทันทีในช่วงฤดูร้อน ว่าเอามันออกไปจากหัวของคุณหากว่าคุณกำลังจะออกไปจากที่นี่เราไม่มีทางที่จะปล่อยคุณไป”
โมดริช ที่ชนะรางวัล บัลลงดอร์ ได้พูดถึงปฏิกิริยาที่รุนแรงจากผู้เชี่ยวชาญและผู้เล่นบางคนที่รู้สึกว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ หรือ ลิโอเนล เมสซี่ สมควรได้รับรางวัลมากกว่า โรนัลโด้ และ เมสซี่ ได้รับรางวัลนี้มาเป็นเวลา 10 ปี โดยผลัดกันชนะมาตลอดคนละ 5 ครั้งระหว่างปี 2008 ถึง 2017 และ โมดริช กล่าวว่าการชนะของตนเองไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าทั้งคู่ในด้านคุณภาพของเขาในฐานะผู้เล่น
“สิ่งที่เป็นความคิดของผมมันง่ายมาก คริสเตียโน โรนัลโด้ และ เมสซี่ เป็นปรากฏการณ์ทั้ง 2 คนที่มีบทบาทสำคัญเป็นเวลา 10 ปี เหนือกว่าทุกคนในแง่ของคุณภาพ แต่ที่นี่เรากำลังพูดถึงผลการทำงานตามฤดูกาล และอาจหมายความว่าคะแนนเสียงของผู้ฝึกสอน ผู้เล่น ตำนานของนักฟุตบอล ผู้สื่อข่าว และ แฟนๆก็เหมือนกัน หรือพวกเขาทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ผมเข้าใจผิด? ถ้าเราจะลงคะแนนเสียงให้กับคุณภาพของนักเตะเราก็สามารถแบ่งถ้วยรางวัลทั้งหมดได้แค่กับ เมสซี่ และ โรนัลโด้ ตราบเท่าที่พวกเขายังลงเล่นได้และไม่ต้องสนใจตัวเลือกอื่นเลย” โมดริช กล่าว
