6 แข้งต่างชาติที่เล่นให้หงส์มากกว่า 300 เกมตั้งแต่ยุคพรีเมียร์ลีก

6 แข้งต่างชาติที่เล่นให้หงส์มากกว่า 300 เกมตั้งแต่ยุคพรีเมียร์ลีก

การเล่นให้กับสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล มากกว่า 300 เกมไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อปัจจุบันต่างเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด และเงินที่พร้อมจะเปลี่ยนทีมได้ทุกเมื่อ พวกเราจะพาไปดู 6 นักเตะต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษที่ลงสนามให้กับทีมได้มากกว่า 300 เกมรวมทุกรายการ นับตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นยุคพรีเมียร์ลีก หรือปี 1992 เป็นต้นมา

ซามี่ ฮูเปีย
กองหลังภูผาน้ำแข็งฟินแลนด์ หลังย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 2.6 ล้านปอนด์ จนกลายเป็นหนึ่งในตำนานของทีม ทั้งความสำเร็จ และการเล่นให้กับทีมตลอด 10 ปี ช่วยทีมคว้าแชมป์ได้กว่า 10 รายการ ลงสนามให้กับทีมไปทั้งหมด 464 เกม ก่อนที่จะย้ายไปยังไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในปี 2009

ยอห์น อาร์เน รีเซ่
กับลูกหนักในการยิงไกล และยิงฟรีคิก กลายเป็นสิ่งที่โดดเด่น และเห็นได้จากรีเซ่ เป็นหนึ่งในตำนานแบ็คซ้ายของทีม หลังย้ายจากโมนาโก มาร่วมทีมในปี 2001 โดยเฉพาะลูกยิงฟรีคิกผ่านมือฟาเบียง บาร์กเตซ ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าประตูไป กับความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้ว่าความผิดพลาดในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2005 ที่อิสตันบูล จะไม่ดี แต่ทีมก็คว้าแชมป์มาได้สำเร็จ ลงสนามให้กับทีมไป 348 เกม

เปเป้ เรน่า
ตัวตายตัวแทนของเจอร์ซี ดูเด็ค ฮีโร่ที่อิสตันบูล แม้ว่าหลายคนจะกังขา แต่สุดท้ายด้วยความเหนียวของเรน่า ก็เอาชนะใจทุกคน และเห็นว่า ราฟาเอล เบนิเตซ ทำถูกแล้ว โดยเก็บได้ถึง 134 คลีนชีต จากการลงสนามเฝ้าเสาทั้งหมด 285 เกมในพรีเมียร์ลีก รวมถึงการเซฟ 3 จุดโทษ ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2006 ช่วยทีมเอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

มาร์ติน สเคอเทล
กองหลังชาวสโลวาเกีย เล่นให้กับทีม 8 ปี หลังย้ายจากเฟเนร์บาห์เช่ มาร่วมทีมในปี 2008 กลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่ยากที่สุดในการเผชิญหน้าของพรีเมียร์ลีก โดยลงสนามให้กับทีมไปทั้งหมด 320 เกม กับลิเวอร์พูล พร้อมกับความกล้าหาญที่แสดงออกมาตลอด

ลูคัส เลว่า
การลงสนามไป 346 เกม มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดี แม้จะเริ่มต้นกับทีมด้วยความยากลำบาก และไม่ได้เป็นที่ต้องการของทีม ก่อนที่จะเอาชนะใจทุกคนด้วยฝีเท้า และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอล และสโมสรหลงรัก

โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ความสมบูรณ์แบบของลิเวอร์พูล กับยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ จะขาดฟีร์มิโน่ ไปไม่ได้เลย เหมือนกับเป็นตัวเชื่อมเกม และดึงกองหลังให้ตามลงมา เปิดทางให้ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ สร้างผลงาน ทำประตู จนทีมประสบความสำเร็จ และดูเหมือนสถิติยังไม่หยุด หลังย้ายจากฮอฟเฟ่นไฮม์ มาร่วมทีมในปี 2015

เนื้อหาใกล้เคียง