กาเบรียล เฆซุส : Gabriel Jesus

ประวัตินักเตะ กาเบรียล เฆซุส

กาเบรียล เฆซุส มีชื่อเต็มว่า “กาเบรียล เฟอร์นันโด เดอ เฆซุส” เขาเกิดเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 1997 อักษรโฟเนติกในการออกเสียงคือ [ɡabɾiˈɛw ʒeˈzus] (ออกเสียงตามภาษาโปรตุเกส) เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพสัญชาติบราซิเลี่ยน ซึ่งลงเล่นในตำแหน่งกองหน้า ให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่เขาสังกัดอยู่ในปัจจุบัน และติดทีมชาติบราซิลอีกด้วย

กาเบรียล เฆซุส เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งเป็นนักฟุตบอล กับทีมพัลไมรัส (Sociedade Esportiva Palmeiras) ทีมดังแห่งเมืองเซา เปาโล ประเทศบราซิล ฟอร์มเขาฉายแววนักเตะชั้นนำจนถูกโหวตให้ได้รับรางวัล “หน้าใหม่ยอดเยี่ยม หรือ best newcomer ของลีก กัมเปโอนาโต้ บราซิเลย์โร่ เซเรีย อาร์ (Campeonato Brasileiro Série A) ในปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่กาเบรียล เฆซุส ช่วยทีมคว้าถ้วยรายการโคปา โด บราซิล ไปได้ และในปีต่อมานั้น เขาก็ได้รับการเสนอชื่อ ให้เป็นนักเจะยอดเยี่ยมของฤดูกาล จากการที่ช่วยให้สโมสรต้นสังกัด พัลไมรัส คว้าแชมป์ลีกไปได้ในรอบ 22 ปี และหลังจากนั้น เขาก็ได้ย้ายสำมะโนครัวมาเป็นนักเตะของทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเดือน ม.ค. ปี 2017 ในที่สุดด้วยค่าตัว 32 ล้านยูโร และร่วมทัพคว้าชัยรายการพรีเมียร์ลีก และบอลถ้วย อีพีแอลคัพ ได้สำเร็จในปี 2018

หลังจากได้รับหน้าที่กัปตันทีมมา 21 นัด และทำประตูได้ 7 ประตูในระดับเยาวชน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการพาทีมชาติบราซิลรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศรายการฟุตบอลโลกรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี และคว้าเหรียญทองฟุตบอลโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2016 ได้สำเร็จ กาเบรียล เฆซุส ก็ถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ในที่สุด

กาเบรียล เฆซุส เกิดในเมืองเซา เปาโล เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบโตขึ้นมากับคนข้างบ้านที่ชื่อว่า ยาร์ดิม เปรี่ (Jardim Peri) หลังจากได้มีโอกาสลองเล่นฟุตบอลข้างถนน เขาก็เกิดความสนใจจนหมั่นฝึกฝนฝีเท้า และเข้าร่วมสโมสรสมัครเล่นในภูมิภาค ซึ่งสโมสรสมัครเล่นทีมสุดท้ายของเขาก็คือ แอสโซเซียเซา แอตเลติก้า อันฮานกูเอร่า (Associação Atlética Anhanguera)

กาเบรียล เฆซุส พัลไมรัส 2014

หลังจากอยู่ในทีมสมัครเล่นได้ไม่นาน ก็มีทีมใหญ่ระดับประเทศอย่าง พัลไมรัส ให้ความสนใจและเสนอสัญญาในการเข้าสู่ทีมเยาวชนในสังคม ซึ่งกาเบรียล เฆซุส ได้ตอบรับและจรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมไปในวันที่ 1 ก.ค. 2013 และจากการลงเล่นในปีดังกล่าว เขายิงไปได้สูงถึง 54 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 48 นัด ในช่วงเดือน ม.ค. 2014 หลังจากการตกลงเจรจาอันแสนยาวนาน ในที่สุดแล้วกาเบรียล เฆซุส ก็ได้ตกลงเซ็นสัญญาเป็นนักเตะพัลไมรัสอย่างเป็นทางการ ด้วยสัญญาระยะเวลายาวนานถึง 3 ปี พร้อมเงื่อนไขการเพิ่มค่าเหนื่อย 2 แบบคือ จากค่าเหนื่อย 15,000 จะเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าทันทีทีอยู่กับทีมครบ 5 ปี และค่าตัวในการขายกาเบรียล เฆซุส ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน เป็น 30 ล้าน แต่อย่างไรก็ตาม ดีลข้อตกลงดังกล่าวก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องสิทธิ์การได้ประโยชน์ระหว่างสโมสรพัลไมรัส กับเอเย่นท์ประจำตัวเฆซุส จากเดิม 75–25% เป็น 73–30%

กาเบรียล เฆซุส ทำประตูไปได้ 37 ประตูจากการลงเล่น 22 เกม ให้กับสโมสรพัลไมรัส ในปี 2015 ในรายการแข่งขันรุ่นระดับอายุต่ำกว่า 17 ปี และนั่นทำให้ตัวของกาเบรียล เฆซุส ได้รับความสนใจจากสโมสรมากมาย ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงทีมชั้นนำต่างๆ ด้วย ในส่วนของทีมชุดใหญ่ ตัวเฆซุสถูกดึงเข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของพัลไมรัส ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. 2014 แม้ว่าจะถูกส่งชื่อและยังไม่ได้ใช้งานตั้งแต่นัดแรกก็ตาม โดยนัดดังกล่าวพัลไมรัสเปิดบ้านพ่ายแพ้ให้กับ คลูเบ้ แอตเลติโก มิเนย์โร่ (Clube Atlético Mineiro) ไป 0-1 ในเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายในรายการ โคปา โด บราซิล ตลอดแคมเปญรายการดังกล่าว เขาไม่ได้ลงเล่นกับชุดใหญ่เลย และทีมของเขาเองก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่จนเกือบที่จะตกชั้น ซึ่งการตัดสินใจที่จะยังไม่ส่ง กาเบรียล เฆซุส ซึ่งถูกดึงขึ้นมาชุดใหญ่แล้วลงสนามนั้น ก็เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของทาง ผจก. ทีม ริการ์โด กาเรก้า จูเนียร์ (Ricardo Gareca Júnior) เอง ซึ่งเขาถูกแฟนๆ และผู้สนับสนุนสโมสรก่นด่าต่อว่ากับการตัดสินใจดังกล่าวเป็นอย่างมาก ในการตัดสินใจดึงเฆซุสขึ้นมาแต่ได้ลงเล่นแค่ในระดับทีมสำรองหรือเยาวชน

กาเบรียล เฆซุส พัลไมรัส 2015

กาเบรียล เฆซุส ได้รับการไว้วางใจให้ลงเล่นกับทีมซีเนียร์ หรือทีมชุดใหญ่ เป็นครั้งแรกในวันที่ 7 มี.ค. 2015 ซึ่งเป็นเกมลีกคัมเปโอนาโต้ เปาลิสต้า (Campeonato Paulista) โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทนลีอันโดร เปเรย์ร่า ในนาทีที่ 73 ซึ่งนัดดังกล่าว ทีมพัลไมรัสต้นสังกัดกาเบรียล เฆซุส เป็นฝ่ายเอาชนะสโมสร ซีเอ บรากันติโน่ (CA Bragantino) ที่สนาม อัลลิแอนซ์ ปราก (Allianz Parque) ไปได้ 1–0 ในฤดูกาลนี้ กาเบรียล เฆซุส ลงสนามไปทั้งหมด 8 นัด ทุกนัดลงเล่นในฐานะตัวสำรอง ในนัดสุดท้าย ในการเตะจุดโทษดวลกับซานโตส ซึ่งพัลไมรัสเป็นฝ่ายแพ้ กาเบรียล เฆซุส เตะจุดโทษพลาด

กาเบรียล เฆซุส ได้รับโอกาสในการลงเล่นเป็น 1 ใน 11 ขุนพลตัวจริงครั้งแรก ในวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งเป็นเลก 2 ของรอบ 2 ในรายการบอลถ้วยประจำปี (year’s cup) ซึ่งเสมอกันไป 1–1 กับทีม ซามปายโญ่ กอร์เรีย ฟูเตโบล คลูเบ้ (Sampaio Corrêa Futebol Clube) จบที่ผลรวม 6-2 และต่อมา ในวันที่ 9 พ.ค. เขาก็ได้ลงเล่นเป็นครั้งแรกในเกมกัมเปโอนาโต้ บราซิเลย์โร่ เซเรีย อาร์ (Campeonato Brasileiro Série A) หรือเกมลีกของบราซิล โดยได้ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก และจบเกมที่ผลเสมอกับทีม แอตเลติโก มิเนย์โร่ 2–2 แบ่งแต้มกันไปคนละแต้ม ตั้งแต่วันแรกของการเปิดฤดูกาล

ประตูแรกที่กาเบรียล เฆซุส ทำได้ในการค้าแข้งระดับมืออาชีพนั้น เกิดขึ้นในรอบต่อไปของรายการบอลถ้วยนี้ โดยนัดดังกล่าวเป็นการที่ทีมพัลไมรัส ต้องออกไปเยือนทีมอย่าง อเกรมิอาเซส สปอร์ติว่า อะราปิราเควนเซ่ (Agremiação Sportiva Arapiraquense) ในวันที่ 15 ก.ค. ปีเดียวกัน ซึ่งการทำประตูแรกของเขาในชีวิตอาชีพนักฟุตบอลนั้น ก็เป็นประตูเดียวที่สองทีมสามารถทำได้ในการแข่งขันทั้ง 2 เลก และเขาก็เริ่มทำประตูได้เรื่อยๆ ในเวลาต่อมา อย่างไม่มีทีท่าจะฟอร์มแผ่วลง และตรงกันข้าม เขาฉายแววซูเปอร์สตาร์ระดับโลกขึ้นมาให้เห็นด้วยซ้ำ โดยเขาซัดไปอีก 2 ประตูในวันที่ 26 ส.ค. ปีเดียวกัน โดยทั้ง 2 ลูกเกิดขึ้นในครึ่งแรกในสนามการแข่งขัน เอสตาดิโอ โกเวอร์นาดอร์ มากัลฮาเอส ปินโต (Estádio Governador Magalhães Pinto) และนั่นทำให้พัลไมรัสต้นสังกัดของเจ้าหนูเฆซุส เอาชนะทีมชื่อดังระดับประเทศอย่าง ครูเซย์โร่ เอสปอร์เต้ คลูเบ้ (Cruzeiro Esporte Clube) ไป 3–2 ทำให้ผลรวมสองนัดเป็น 5–3 เนื่องจากนัดแรกชนะ 2–1 ผ่านเข้ารองก่อนรองชนะเลิศต่อไปในที่สุด และแน่นอนว่าไม่หยุดแค่นั้น ในเพียงแค่อีก 4 วันต่อมา เขาก็ทำประตูในเกมลีกได้ประตูแรกเป็นผลสำเร็จ โดยลงเล่นเป็นตัวจริงในการพบกับ ยอร์นวิลล์ เอสปอร์เต้ คลูเบ้ (Joinville Esporte Clube) และเอาชนะไปได้ 3–2 โดยประตูแรกที่เขายิงได้นั้น ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มเขี่ยบอลครั้งแรก เป็นเวลาเพียง 52 วินาทีเท่านั้นเอง

กาเบรียล เฆซุส พัลไมรัส 2016

กาเบรียล เฆซุส จบรายการด้วยการทำ 4 ประตูใน 20 เกม และทีมของเขาพลาดท่าแพ้ให้กับซานโตส จนชวดแชมป์รายการนี้ กาเบรียล เฆซุสลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศทั้ง 2 เลก แต่ถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่ไหล่ แต่อย่างไรก็ดี เขาก็ได้รับการเลือกให้เป็น “หน้าใหม่ยอดเยี่ยม” หรือ Best Newcomer ของลีกในที่สุด ในวันที่ 4 ก.พ. 2016 เฆซุสกดประตูแรกให้กับทีมในศึกพัลลิสต้า (Paulista) หรือเกมลีก ซึ่งนัดดังกล่าวเปิดบ้านเสมอกับทีมเอสปอร์เต้ คลูเบ้ ซาโอ เบนโต ในเกมที่สองของฤดูกาล แล้วในอีก 12 วันถัดมา เขาก็ซัดประตูในเกมระดับทวีปได้เป็นผลสำเร็จ ในนัดเสมอกับริเวอร์เพลท ยอดทีมจากอุรุกวัย ในเกมเปิดสนามนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่มของศึกโคปา ลิเบอร์ตาโดเรส (Copa Libertadores) หลังจากที่ได้มีโอกาสลงแทนที่อีริค ลิม่า และต่อมาในนัดที่ออกไปเยือนโรซาริโอ้ เซ็นทรัล ในวันที่ 6 เม.ย. เขาก็จัดการกดไป 2 ประตูช่วยให้ทีมเสมอกันไป 3-3 แต่ในนัดดังกล่าว ก็เป็นนัดแรกที่เขาถูกไล่ออกจากสนาม อันเนื่องจากการทะเลาะกับ ดาเมียน มุสโต แต่อย่างไรก็ดี เฆซุสก็ได้ออกมาขอโทษกับพฤติกรรมในภายหลัง ในนัดเปิดสนามพบกับทีมคลูเบ้ แอตเลติโก พาราแนนเซ่ ในวันที่ 14 พ.ค. เฆซุสยิง 2 ประตูในครึ่งหลัง ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 4-0 เขาซัดไปทั้งหมด 12 ประตู ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1994 และได้รับรางวัล “โบล่า เดอ อูโร” (Bola de Ouro) หรือนักเตะยอดเยี่ยมอีกด้วย

กาเบรียล เฆซุส แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2016

ในวันที่ 3 ส.ค. 2016 มีการแถลงการณ์ออกมาว่า ไอ้หนูเฆซุส จะทำการเซ็นสัญญากับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมืองดังเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ในช่วงเดือน ม.ค. 2017 และสัญญาจะมีผลไปถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2021 โดยทีมที่เก่งที่สุดในเมืองแมนเชสเตอร์นี้ จะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากถึง 33 ล้านยูโรหรือ 27 ล้านปอนด์ และเงินเพิ่มเติมในภายหลัง เพื่อเป็นค่าตัวของกาเบรียล และจนวันที่ 19 ม.ค. 2017 การจัดการเรื่องการย้ายทีมทุกอย่างก็เป็นที่เรียบร้อยในที่สุด

เฆซุส ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกนัดแรก ในชุดของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ในปีเดียวกัน โดยถูกเปลี่ยนตัวจากม้านั่งสำรองลงประเดิมสนามในนาทีที่ 82 กับราฮีม สเตอร์ริ่ง ปีกตัวจี๊ดอดีตเด็กปั้นของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมดังจากเมืองลิเวอร์พูล ในนัดดังกล่าว เมื่อจบ 90 นาทีผลคือเสมอกับท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ไป 2-2 ที่ ซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์สเตเดี้ยม และในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา เฆซุสก็ได้ออกสตาร์ทเป็น 1 ในขุนพล 11 ตัวจริงของกุนซือโจเซป เปป กวาดิโอล่าเป็นนัดแรกได้ในที่สุด โดยในนัดดังกล่าว แม้จะทำประตูไม่ได้ แต่เฆซุสก็จัดการ 1 แอสซิสต์ให้กับสเตอร์ริ่ง ช่วยให้ทีมเรือใบสีฟ้าเอาชนะคริสตัล พาเลซ ไปได้ 3-0 ในที่สุด ในศึกเอฟเอ คัพ และต่อมา ในวันที่ 1 ก.พ. ก็เป็นครั้งแรกของเฆซุส ที่ได้ลงสนามแทนตำแหน่งของ เซอร์คิโอ้ กุน อเกวโร่ ในพรีเมียร์ลีก และเขาก็จัดการแอสซิสต์อีกครั้งหนึ่งให้กับเควิน เดอ บรอยน์ ทำประตูได้ในนาทีที่ 17 และทำประตูแรกของตัวเองในพรีเมียร์ลีกและเป็นประตูแรกของเขากับทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ด้วย ในนาที่ที่ 39 และนี่ ทำให้เขาเป็นคนแรกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำประตูได้พร้อมทั้งแอสซิสต์ได้จากการลงเล่นในนัดแรก และยังเป็นคนที่ 3 ที่มีส่วนร่วมกับ 2 ประตูหรือมากกว่านั้น ตั้งแต่การลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีกนัดแรก และในนัดที่ 4 ของเขา ซึ่งเป็นนัดที่ 3 ในลีก อาการบาดเจ็บก็เล่นงานเขาจนได้ เมื่อเขามีอาการบาดเจ็บบริเวณ metatarsal (กระดูกฝ่าเท้า) ที่เท้าขวาของเขา นั่นทำให้เขาถูกประเมินว่า จะไม่สามารถลงเล่นได้อีกเลยในฤดูกาล 2016-17 แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในศึกดาร์บี้เมืองแมนเชสเตอร์ โดยลงมาในฐานะตัวสำรอง และนัดดังกล่าวจบลงด้วยการเสมอกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กาเบรียล เฆซุสจบฤดูกาล 2016-17 ไปพร้อมสถิติการทำประตู 7 ลูก และ 4 แอสซิสต์ ในการลงสนามทั้งฐานะตัวจริงและตัวสำรอง 11 เกม

กาเบรียล เฆซุส แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2018

ในฤดูกาลที่ 2017-18 กาเบรียล เฆซุส ทำประตูแรกในเกมพรีเมียร์ลีกได้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งเป็นการทำประตูตีเสมอในเกมบุกไปเอาชนะเอเอฟซี บอร์นมัธได้คาบ้าน 2-1 และยิงได้ 2 ประตูในการถล่มเอาชนะคู่แข่งแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูล ไปขาดลอย 5-0 เมื่อวันที่ 9 ก.ย. แต่อย่างไรก็ตาม กาเบรียล เฆซุสไม่ได้ลงสนามต่อเนื่องยาวนานถึง 14 เกมในช่วงระหว่าง 18 พ.ย. 2017 ถึง มี.ค. 2018 ในการเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า และพักฟื้นอาการบาดเจ็บ จนกระทั่งฟื้นตัวและลงเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดแรกได้ ในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตี้แพ้เอฟซี บาเซิ่ล ซึ่งในการเล่นนัดดังกล่าวนั้น กาเบรียล เฆซุสเผยว่า เขากลัวเป็นอย่างยิ่งที่อาจจะต้องบาดเจ็บอีกครั้ง และนั่นส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในสนามนัดดังกล่าวเป็นอย่างมากจนดูราวกับว่าเขาเล่นไม่ออกอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ดี กาเบรียล เฆซุสทำประตูได้ครั้งสุดท้ายในเกมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017-18 ซึ่งทีมเรือใบสีฟ้าเจอกับทีมนักบุญเซาท์แธมตัน ในนาทีที่ 94 ของเกม และเป็นการการันตี 100 แต้มให้กับทีม และเมื่อเข้าฤดูกาลที่ 2018-19 ในวันที่ 9 ม.ค. 2019 กาเบรียล เฆซุสก็ซัด 4 ตุงเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งของเขา ช่วยให้ทีมเอาชนะสโมสรเบอร์ตัน อัลเบี้ยน ไปอย่างท่วมท้นมโหฬารบานตะไท 9-0

กาเบรียล เฆซุส บราซิล

กาเบรียล เฆซุส เป็นส่วนหนึ่งของขุนพลแดนแซมบ้าบราซิล ในชุดรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ในการลงศึกลุยทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลโลกรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่นิวซีแลนด์ ในปี 2015 และร่วมกับทีมพากันจบอันดับรองชนะเลิศในครั้งนั้น เขาทำประตูแรกได้ในนัดเอาชนะไนจีเรีย 4-2 ที่ New Plymouth และเรียกจุดโทษให้ทีมได้ในนัดที่เจอกับอุรุกวัย และโปรตุเกส ในปี 2016 เจ้าหนูกาเบรียล เฆซุสได้รับการเลือก เป็น 1 ใน 40 ขุนพลของโค้ชดุงก้า ในการลุยศึกโคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ้ (Copa América Centenario) ที่สหรัฐ อเมริกา ก่อนที่จะถูกตัดสินใจใส่ชื่อแทนดักลาส คอสต้า ที่มีอาการบาดเจ็บ จนได้ติดชุดสุดท้ายในการลุยศึกครั้งดังกล่าวในที่สุด แต่ทว่า เกิดอุปสรรคขึ้น เมื่อเขาไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าเข้าประเทศ จึงต้องอดเข้าร่วมลงเล่นในรายการดังกล่าว และต้องถูกตัดชื่อออกโดยปริยาย แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงต่อมาของปีเดียวกัน เฆซุสก็ได้เป็น 1 ใน 5 ของกองหน้าที่มีชื่อติดทีมในการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งบราซิลเป็นเจ้าภาพ เขาจัดการส่งบอลผ่านมือ เจปเป้ ฮอจ์บเจอร์ก (Jeppe Højbjerg) นายทวารสัญชาติเดนนิชไปได้ ในนัดแบ่งกลุ่มรอบสุดท้าย ส่งผลให้บราซิลเอาชนะเดนมาร์กไปได้ 4 – 0 ผ่านเข้ารอบไป และในรอบก่อนรองชนะเลิศ บราซิลเจอกับฮอนดูรัส ก็เป็นเขาเช่นเคย ที่กด 2 ประตูช่วยทีมเอาชนะไปอย่างท่วมท้นมโหฬาร 6-0 และเฆซุสก็สามารถคว้าเหรียญทองในรายการโอลิมปิกนี้ จากการที่บราซิลเอาชนะ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนีไปได้ ในการดวลจุดโทษ โดยที่เขาก็เป็นหนึ่งในคนที่ยิงลูกโทษได้อีกด้วย กาเบรียล เฆซุสลงประเดิมสนามในทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในวันที่ 1 ก.ย. 2016 ในรายการฟุตบอลโลกปี 2018 รอบแบ่งกลุ่ม นัดดังกล่าวเป็นทีมชาติบราซิลเจอกับอีกัวดอร์ ที่เมืองกุยโต บ้านของอีกัวดอร์ เขาลงเล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก และกดไป 2 ประตูอีกเช่นเคย ทำให้บราซิลเอาชนะอีกัวดอร์ไป 3-0 โดยกาเบรียล เฆซุส เป็นผู้เล่นบราซิลที่ทำประตูได้มากที่สุดในการแบ่งกลุ่มโซน CONMEBOL โดยทำได้ 7 ประตูใน 10 นัด ส่วนในเดือน พ.ค. 2018 เขามีชื่อติดรายชื่อขุนพล 23 คนสุดท้ายของโค้ช ติเต้ ในรายการลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เขาลงเล่น 5 เกมให้กับบราซิล แต่ทำประตูไม่ได้

กาเบรียล เฆซุส รูปแบบหรือสไตล์การเล่น

เนื่องด้วยความมีทักษะเป็นเลิศ และสามารถเล่นแนวรุกได้หลากหลายรูปแบบ กาเบรียล เฆซุส จึงมักถูกส่งลงเล่นใน หลายตำแหน่งของแนวรุก เขาสามารถเล่นได้หมดไม่ว่าจะเป็น กองหน้าตัวกลาง หน้าเป้าสายคลาสสิก false 9 กองหน้าตัวใน เฆซุสเล่นได้แม้กระทั่งตำแหน่งปีกหรือตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก และตำแหน่งต่างๆ ที่เขาได้รับโอกาสลงเล่น ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น ทำให้กาเบรียล เฆซุส มีชื่อเสียงและความโดดเด่นในด้านของ ความเร็ว ทักษะและเทคนิคต่างๆ การเลี้ยงบอล ความคิดสร้างสรรค์ การจบสกอร์ การเคลื่อนไหว และความเป็นมืออาชีพ ทั้งนี้ โรนัลโด้ กองหน้าระดับพระกาฬเจ้าของเบอร์ 9 ในตำนานของประเทศบราซิล ชาติเดียวกับกาเบรียล เฆซุส กล่าวเอาไว้ว่า ฝีเท้าเขายอดเยี่ยม และสมควรที่จะประสบความสำเร็จกับทีมชาติบราซิลในระดับสูงได้ในเร็ววันนี้

กาเบรียล เฆซุส การปรากฎตัวในวีดีโอเกม

กาเบรียล เฆซุส ถูกซื้อลิขสิทธิ์ในการไปปรากฏตัวในเกมชื่อดังอย่าง EA Sport’ FIFA video game อีกด้วย โดยเป็นภาพเคลื่อนไหวสื่อให้เห็นถึงกาเบรียล เฆซุส ซึ่งกำลังทำท่าดีใจ ชื่อท่าว่า ‘Alô-mãe’ ซึ่งเป็นท่าทางดีใจคล้ายๆ กับการโทรศัพท์ โดยล่าสุดปรากฏในเกม FIFA 19

กาเบรียล เฆซุส ชีวิตส่วนตัว

กาเบรียล เฆซุส บินมาอังกฤษกับแม่ และพี่ชายของเขา และยังมีเพื่อน ตามมาด้วยอีก 2 คน เขาเติบโตขึ้นมาในบ้านที่เคร่งศาสนาและนั่นเป็นที่มาของ การตัดสินใจที่จะเลือกใส่เบอร์ 33 เพื่อเป็นการสดุดีแก่พระบิดา ซึ่งมีพระชนมพรรษา 33 ปี ในวันที่ท่านถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขน ทั้งนี้ ตัวของกาเบรียล เฆซุสและเนย์มาร์นั้นมีแทททู หรือรอยสักลายเดียวกัน ทั้งยังสักเดือนเดียวกันอีกด้วย นั่นคือเดือน ส.ค. 2016 โดยทั้งคู่สักเป็นรูปเด็กผู้ชายคนหนึ่ง กำลังมองอย่างเดินเฉยต่อบริเวณพื้นที่สลัม