โทนี่ โครส : Toni Kroos

ประวัตินักเตะ โทนี่ โครส

โทนี่ โครส เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2533 เป็นนักเตะของทีมชาติเยอรมันที่ให้กำลังเล่นให้กับสโมสรเรอัล มาดริด โดยส่วนใหญ่ โครส จะเล่นในตำแหน่งกลางตัวบุกและลงไปช่วยในเกมรับได้เช่นกัน เขาเป็นผู้เล่นที่คอยสร้างสรรค์เกมและจ่ายบอลสวยๆให้เพื่อน จนทำให้ทุกคนยอมรับเขาในตำแหน่งมิดฟิลด์แดนกลางที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยทีเดียว โครสเกิดที่เมืองไกรฟ์วาลด์ เมืองเล็กๆในประเทศเยอรมัน โครส เริ่มต้นเป็นนักเตะมืออาชีพตอนอายุ 17 ปีกับทีมสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ในปี 2550 หลังจากนั้นเขาได้เล่นให้ทีมสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยสัญญายืมตัว 18 เดือน หลังจากนั้นเขาได้กลับมาเล่นให้ทีมบาเยิร์น มิวนิคอีกครั้ง เขาทำผลงานได้โดดเด่นและเพิ่มความอันตรายในความสามารถของเขาได้อย่างมากและเขาสามารถคว้าถ้วยแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกและศึกฟุตบอลเยอรมันคัพ (ดีเอฟบี โพคาล) อีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานปี 2557 เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลาลีก้าก็มีเสนอขอซื้อเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร โครส ถือเป็นนักเตะคนสำคัญในการทำทีมของผู้จัดการทีมทั้ง 2 คน อาทิ เช่น การ์โล อัลเชลอตติ และ ซีเนดีน ซีดาน เขาสามารถช่วยพาให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกได้ถึง 3 ครั้งใน 2558-2561 อีกทั้งเขายังมีชื่อเข้าลุ้นถึง 2 ที่ด้วยกันเช่น นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป และ ทีมแห่งปีของยูฟ่า ปี 2559 ปี 2560 รวมถึงเขาสามารถคว้าถ้วยรางวัล ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกได้ถึง 5 แชมป์ ในปี 2561 เขาได้รับรางวัลนักเตะสัญญาเยอรมันยอดเยี่ยมแห่งปีจากนักข่าวคิกเกอร์อีกด้วย หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จกับนักเตะอาชีพรุ่นเยาวชน เขาได้รางวัลนักเตะทองคำและคือผู้ทำประตูสูงสุดในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2549 และได้รางวัลลูกบอลทองคำสำหรับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี โครส ขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2553 และเขาสามารถทำประตูแรกให้ทีมชาติได้ในปี 2554 เกมนัดกระชับมิตรพบกับทีมชาติโปแลนด์ และหลังจากนั้นเขาก็ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติมาตลอดทุกนัด เริ่มจาก ฟุตบอลโลกปี 2553 และในปี 2557 สามารถช่วยให้ทีมชาติเยอรมันคว้าถ้วยฟุตบอลโลก โดยที่เขาได้เป็นผู้ผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุด และติดในทีมนักเตะยอดเยี่ยม แถมทั้งยังได้รางวัลนักเตะสัญชาติเยอรมันยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย

โทนี่ โครส นักฟุตบอลเยาวชน

โครส เข้ามาฝึกครั้งแรกกับทีมเยาวชนของไกรฟ์วาลส์เเละหลังจากนั้นได้ย้ายไปเป็นนักเตะเยาวชนของทีมสโมสรฮันซา รอสต๊อค ก่อนจะย้ายไปเป็นนักเตะเยาวชนให้กับทีมสโมสรบาเยิร์น มิวนิคในปี 2549 โครส เคยขาดเรียนไปถึง 40 วันเนื่องจากฝึกซ้อมฟุตบอล ฤดูกาล 2550-51 โครส มีอายุ 17 ปี ได้ถูกเรียกให้ขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค วันที่ 26 กันยายน 2550 เขาได้ลงเล่นให้ทีมบาเยิร์น มิวนิคเป็นนัดแรกในศึกบุนเดสลีก้า เอาชนะทีมเอเนอร์กี้ ค็อตบุส 5-0 โครสสามารถผ่านบอลให้ มีโรสลัฟ โคลเซอ ทำประตูได้ถึงสองลูก หลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาได้เพียง 18 นาที ในเกมนัดนี้ทำให้ โครส เป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดด้วยวัย 17 ปี 265 วัน และสถิติถูกทำลายโดย ดาวิด อาลาบา ปี 2553 วันที่ 25 ตุลาคม โครส ถูกเปลี่ยนตัวลงมาช่วยทีมบาเยิร์น มิวนิค ในนาทีที่ 81 ก่อนจะผ่านบอลให้ มีโรสลัฟ โคลเซอ ทำประตูและเขายิงประตูลูกแรกของเขาได้โดยยิงปิดเกมเอาชนะทีมเร้ดสตาร์ เบลเกรด และหลังจากนั้นเขาได้ลงเป็นนักเตะตัวจริงเป็นนัดแรกแต่ต้องพ่ายไปให้กับทีม วีเอฟบี ชตุทท์การ์ท ไป 3-1 ฤดูกาลแรก โครส ลงเล่นให้ทีมสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ไปทั้งหมด 20 เกมและลงเล่นเป็นตัวจริง 6 ครั้ง เขาสามารถยิงประตูได้ 3 ประตูใน 12 นัดสำหรับทีม บาเยิร์น มิวนิค รุ่นเยาวชน นอกเหนือจากนั้น เขาได้ถูกเลือกให้เป็นผู้เล่นตัวจริงนัดเปิดฤดูกาลบุนเดสลีก้า 2551/52 พบกับทีม ฮัมบูร์ก วันที่ 5 พฤษภาคม 2551 เขาได้ลงมาเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 79 นัดที่พบกับทีมสโมสรฟีออเนรตีนา ในรอบที่สี่ของกลุ่ม

โทนี่ โครส เยอรมัน 2553

วันที่ 31 มกราคม 2552 บาเยิร์น มิวนิค อนุญาตให้โครส สามารถไปร่วมเก็บประสบการณ์กับทีมสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นได้ในสัญญายืมตัว 18 เดือน เขาได้ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเป็นตัวสำรอง แต่ทีมได้พ่ายให้กับทีมฮันโนเวอร์ 96 ไป 1-0 วันที่ 12 เมษายน เขาได้มีชื่อเป็นนักเตะตัวจริงในศึกบุนเดสลีก้าครั้งแรกของเขากับทีมสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดยที่เขาสามารถช่วยจ่ายบอลทำให้ทีมทำประตูเสมอ 1-1 กับทีมแวร์เดอเบรเมิน วันที่ 18 เมษายน 2552 เขาได้ทำประตูลูกแรกในศึกบุนเดสลีก้า ก่อนที่ทีมจะแพ้ให้กับทีมโวล์ฟบวร์ก 2-1 วันที่ 30 พฤษภาคม โครส ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเป็นคนสุดท้ายในศึกฟุตบอลดีเอฟบี โพคาล 2559 รอบชิงแชมป์ พบกับทีมทีมแวร์เดอเบรเมินและทีมเลเวอร์คูเซ่นได้พ่ายไป 1-0 จากลูกยิงของ เมซุต โอซิล ฤดูกาล 2551-52 โครสได้ลงสนามทั้งหมดให้กับทีมสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 13 ครั้งกับ 1 ลูก โครส ได้กลายเป็นตัวหลักให้กับทีมเลเวอร์คูเซ่น ฤดูกาล 2552-53 ได้ลงทั้งหมดและในศึกบุนเดสลีก้าระหว่าง 16 กับ 20 ได้ทำไป 5 ประตูและ 4 แอสซิส ในทั้งหมดห้าเกมการแข่งขัน จนทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนธันวาคม 2552 และเดือนมกราคม 2553 จากคลิกเกอร์ไปครอง หลังจบฤดูกาลเขาสามารถทำประตูได้ 9 ลูก 12 แอสซิส ทั้งหมด 33 เกม

โทนี่ โครส บาเยิร์น มิวนิค 2553

ช่วงซัมเมอร์ปี 2553 สัญญายืมตัวระหว่าง โครส กับทีมสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ได้สิ้นสุดลง เขาจึงได้กลับมาทีมบาเยิร์น มิวนิค ได้มีการสอบถามพูดคุยเกี่ยวกับการที่ได้มีโอกาสลงเล่นในศึกแชมเปี้ยนลีกที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง โครส ได้กล่าวว่า “หากเป็นไปได้ ฉันต้องการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ” วันที่ 16 สิงหาคม 2553 โครส ตรงออกสตาร์ทเป็นผู้เล่นตัวจริงพบกับทีมสโมสรเจอมาเนีย วินเด็ค ในรอบแรกของศึก ดีเอฟบี โพคาล โดยเขายิงลูกที่3 พาให้ทีมเอาชนะไปได้ 4-0 วันที่ 29 ตุลาคม 2553 เขายิงลูกแรกขึ้นนำให้กับทีมและสามารถเอาชนะทีมสโมสรเอสซี ไฟร์บวร์กไปได้ 4-1 ในฤดูกาล 2553-54 โครสได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ ทีมบาเยิร์น มิวนิค ในศึกบุนเดสลีก้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหมดทั้งศึก ดีเอฟบี โพคาล และ แชมป์เปี้ยนลีก โครสลงเล่นไปทั้งหมด 37 เกม ฤดูกาล 2554-55 ภายใต้การคุมทีมยุค ไฮน์เคิส ของทีมสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ได้ถูกเลือกให้เป็นตัวเลือกแรกที่จะลงได้ล่งเล่น รวมถึงในทีมชาติก็ตามเขาได้ยืนคู่กับกองกลางอย่าง บัสทีอัน ชไวน์ซไตเกอร์ เขาได้ลงเล่นทั้งหมด 51 นัดกับทุกการแข่งขันอาทิเช่น ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก 2555 ในเกมที่ดวลจุดโทษกับทีมสโมสรเชลซี ณ สนามอัลลิอันซ์ อาเรนา

โทนี่ โครส บาเยิร์น มิวนิค 2556

โครส เป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม บาเยิร์น มิวนิค ที่พาทีมชนะฤดูกาล 2555-55 รวมถึงกองกลางคนสำคัญที่สุดของทีม เช่น ชไวร์ซไตเกอร์ และ ฆาบี มาร์ติเนซ โครส ยิงไปทั้งหมด 3 ประตู ของสี่เกมในรอบเปิดฤดูกาลศึกบุนเดสลีก้าและยิงประตูลูกแรกในรอบแรกของการแข่งขันยูฟ่แชมป์เปี้ยนลีกนัดที่พบกับทีมสโมสรบาเรนเซีย หลังนั้นได้เข้ารับการรักษาจากอาการบาดเจ็บในรอบที่เจอกับทีมยูเวนตุสก่อนรองชนะเลิศโดยที่ไม่สามาลงเล่นได้และพลาดการคว้าแชมป์ในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 2556 รวมไปถึงศึก ดีเอฟบี โพคาล อีก 7 นัดสุดท้ายที่เขาไม่ได้ลงไปอย่างน่าเสียดาย โครส กลับมาเข้าฝึกความพร้อมให้กับร่างกายก่อนเริ่มฤดูกาล 2556-57 และลงเล่นให้กับที่ชาติเยอรมันในศึก เยอรมันซุปเปอร์คัพ และ ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ วันที่ 4 ตุลาคม 2556 เขายิงประตูลูกแรกได้ในนัดที่พบกับทีมสโมสรเก่าอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ผลเสมอกันไป 1-1 โครสได้ลงเล่นเป็นผู้เล่นตัวหลักสองครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2556 โดยรอบแรกพบกับทีมกวางโจวเอเวอกรนด์ และชนะไป 3-0 เอาชนะไปได้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556และอีกครั้งพอกับทีม ราจา คาซาลังก้า ชนะไป 2-0 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 โครส ได้ทำประตูที่สองในศึกยู่ฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก เอาชนะอาเซนอล ไปได้ 2-0 วันที่ 25 มีนาคม เขาสามารถทำประตูให้ทีมเอาชนะ ทีมสโมสร แฮร์ธ่า บีเอสซี 3-1 บาเยิร์น มิวนิค แถมยังยืนยันการคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าอีกด้วย

โทนี่ โครส เรอัล มาดริด 2557

วันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ทีมสโมสรเรอัล มาดริดประกาศออกสื่อเรื่องของการคว้าตัว โทนี่ โครส พร้อมสัญญา 6 ปีโดยไม่เปิดเผยตัวเลขของการซื้อขายของดีลนี้ สื่อมีการรายงานค่าตัวของโครส อยู่ที่ 24-30 ล้านยูโร ทีมเยาวชนแห่งแรกของเขาก็ได้รับเงินเช่นกัน 6 หมื่นยูโร จากการย้ายทีม โครส เป็นนักเตะเยอรมันคนที่เก้าที่ได้เป็นนักเตะของทีมสโมสรเรอัล มาดริด อาทิเช่น กุนเทอร์ เน็ตเซอร์,พอล ไบรท์เนอร์,อูลี่ สตีลิเก้,แบรนด์ ชูสเตอร์,โบโด้ อิ๊ล์กเนอร์,คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์,เมซุส โอซิล และ ซามี เคดีรา ในวันเปิดตัวต่อหน้าผู้คนจำนวน 8000 คน เขาได้กว่าถึงทีมเรอัล มาดริด คือทีมที่ยิ่งใหญ่ในโลก และเหนือกว่าทีม บาเยิร์น มิวนิค วันที่ 12 สิงหาคม 2557 เขาได้ลงเล่นให้กับสโมสรเรอัล มาดริด พบกับทีม เซบีญ่า ในศึกยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ ทำให้ทีมคว้าชัยชนะและนี่เป็นถ้วยแชมป์แรกของโครส เขาเคยเป็นผู้เล่น 3 ประสานแดนกลางคนสำคัญร่วมกันกับ ฮาเมส โรดริเกซ และ ลูก้า มอดริซ ที่ทำทีมเรอัล มาดริดชนะติดต่อกัน 22 นัดในหนึ่งปี วันที่ 8 พฤศจิกายน โครส ทำประตูลูกแรกให้เขาได้ โดยเอาชนะ ทีมสโมสร ราโยบาเยกาโน่ 5-1 ในบ้าน เดือนธันวาคม เขาได้ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรป 2557 และนอกจากนี้เขายังมีรายชื่อติดในนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป และทีมยอดเยี่ยม

โทนี่ โครส เรอัล มาดริด 2558

ปี 2558 ราฟาเอล เบนิเตซ ได้มารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแทนอัลเชลอสตี พอถึงช่วงกลางฤดูกาล ซีเนดีน ซีดาน ได้เข้ามารับตำแหน่งต่อเลยทำให้โครสกลายเป็นกุญแจแดนกลางคนสำคัญไปเลย ซีดาน กล่าวถึง โครส ว่า “โครส สามารถเป็นตำนานของมาดริดได้แน่นอน นี่คือการเซ็นสัญญาที่สุดยอดมาก” เขาคือผู้เล่นในชุดแชมป์ที่สามารถพาทีมเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ศึกแชมป์เปี้ยนลีก 2558-59 และเป็นถ้วยที่สอง สโมสรเรอัล มาดริด ฉลองชัยชนะที่ ซานซิโร่ หมายความว่า โครส คือนักเตะเยอรมันคนแรกที่สามารถชูถ้วยแชมป์ได้ถึงสองสโมสร

โทนี่ โครส เรอัล มาดริด 2559
วันที่ 12 ตุลาคม 2559 โครส ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ไปถึงปี 2565 และตอนสิ้นปีเขามีชื่อติดในรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีและทีมยอดเยี่ยม เขายิงประตูสุดท้ายให้ทีมสโมสรเรอัล มาดริดในนาทีที่ 81 เอาชนะทีมสโมสรเซลต้า บีโก้ นี่ถือเป็นเกมแรกที่ชนะในบ้านของฤดูกาล 2-1 โครส ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลที่ได้แชมป์ศึกลาลีก่า 2559-60 และศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 2559-60 เขากลายเป็นนักเตะเยอรมันที่ได้สามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 3 รอบ

โทนี่ โครส เรอัล มาดริด 2560

ศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 2560-61 เขา ได้ลงเล่นไป 12 เกม นัดที่ทีมเรอัล มาดริด ได้แชมป์ที่สาม เขาลงเล่นไปทั้งหมด 13 เกม ฤดูกาล 2561-62 วันที่ 22 ธันวาคม 2561 โครส ทำลายสถิติแชมป์ได้ถึง 5 แชมป์ในศึกการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรโลก

โทนี่ โครส เยอรมัน 2550

ศึกฟุตบอลโลกเยาวชน ปี 2550 รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี โทนี่ โครสได้รับรางวัลลูกบอลทองคำ ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมและทำประตูได้ 5 ลูก วันที่ 5 กันยายน 2551 โครส ได้พบกับความพ่ายแพ้ในศึกฟุตบอลยูโรเยาวชน 2552 รุ่นอายุไม่เกิน21 ปี ให้กับทีมชาติไอร์เหนือและสามารถทำประตูแรกในนาทีที่ 11 และโครส ทำประตูที่สองพาทีมชาติเยอรมนีรุ่นเยาวชน อายุไม่เกิน 21 ปี เอาชนะทีมชาติอิตาลีไป 1-0 เซอร์ไพรส์ไปมากกว่านั้นคือโคชทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ฮอร์ส ฮูเบรส ได้ตัดชื่อเขาออกจากทีม และพาทีมชาติเยอรมนีคว้าชัยชนะโดยไม่มีโครส

โทนี่ โครส เยอรมัน 2553

เดือนมกราคม 2553 โครส ได้ถูกเรียกขึ้นมาติดทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเพื่อมาฝึกซ้อมที่ ซินเดลฟิงเกน และมีรายชื่อลงแข่งนัดอุ่นเครื่องพบกับทีมชาติอาร์เจนตินาวันที่ 3 มีนาคม 2553 และพบกับความพ่ายแพ้ไป โครส ได้ถูกเลือกเป็น 23 นักเตะของ โยฮาคิม เลิฟ ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2553 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เขาได้ลงแข่งในนัดที่พบกับทีมชาติกาน่า ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน บัสทีอัน ชไวน์ซไตเกอร์ ในนาทีที่ 80 เยอรมันนำอยู่ 1-0 โครส ยังคงได้ลงมาเป็นผู้เล่นตัวสำรองในรอบ8แปดทีมสุดท้ายพบกับทีมชาติ อาเจนตินา และรอบ 4 ทีมสุดท้ายพบกับทีมชาติสเปนและทีมชาติอุรุกวัย

โทนี่ โครส เยอรมัน 2555

โครส เป็นผู้เล่นตัวจริงให้ทีมชาติเยอรมนีอย่างต่อเนื่องในศึกฟุตบอลยูโร 2555 ได้ลงเล่น 8 นัดใน 10 เกม รวมทั้งหมด 10 เกมทีมชาติเยอรมนีชนะทุกนัดมีคะแนนอยู่เหลือตารางในกลุ่มเอ และเป็นแน่แท้ โครส ยิงประตูลูกแรกให้กับทีมชาติ โดยยิงด้วยเท้าขวาทั้งสอง ลูกยิงทั้งสองโดดเด่นมาก ในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องพบกับ ทีมชาติยูเครน และทีมโปแลนด์ โยฮานคีม เลิฟ ยังกล่าวไว้ว่า “เขามีการจ่ายบอลอย่างไร เขามีการรับลูกอย่างไร มันมุดยอดมาก” เขาเป็ผู้เล่นที่มีทักษะสุดยอดมาก เขาได้แสดงมันออกมาในหลายๆเกม ผมประทับใจกับนักเตะ ในเกมการแข่งขันรอบสุดท้าย โครส ได้เปลี่ยนตัวลงมาพร้อมกัน 3 คนในรอบสี่ทีมสุดท้าย โยฮานคีม เลิฟ ส่งให้โครส ลงมาตามติดนักเตะอิตาลีอย่าง อันเดรอา ปีร์โล เป็นการตัดสินใจที่ยากมากทำให้ทีมเยอรมันแพ้ทีมชาติอิตาลีไป 2-1

โทนี่ โครส เยอรมัน 2557

ในระหว่างศึกฟุตบอลโลก 2557 โครส สามารถยิงประตูได้ทั้งสองเกม โดยชนะ 6-1 เอาชนะทีม ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือที่ดูไบ วันที่ 6 กันยายน 2555 เขาได้ทำประตูที่สองได้เอาชนะทีมออสเตรเลีย 3-0 โครส มีชื่ออยู่ใน 23 ขุนพลลุยศึกฟุตบอลโลก 2557 ในเกมนัดเปิดศึกสามารถเอาชนะทีมชาติโปรตุเกสไป 4-0 โดยที่โครส เล่นในตำแหน่งกองกลางและแอสซิสให้ มัทซ์ ฮุมเมิลล์ ในประตูที่สอง ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายทำได้เพียง 1 ประตูจาก มัทซ์ ฮุมเมิล์ เอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสจากลูกเตะฟรีคิก ในรอบ 4 ทีมสุดท้ายต้องพบกับเจ้าบ้านอย่างทีมชาติ บราซิล โครส ยิงประตูได้ถึง 2 ลูก โดยประตูห่างกันแค่ 2 นาทีเท่านั้น (นาทีที่ 24 และ นาทีที่ 26) ทีมชาติเยอรมนีเอาชนะไปได้ 7-1 เขามีรายชื่อการทำแอสซิสได้ถึง 4 ครั้งมากกว่า โทมัส มึลเลอร์ และเขาได้รางวัลแมนออฟเดอะเเมท โครสได้รับชื่อเล่นเป็นภาษาโปรตุกีสว่า “การ์คอม” แปลว่า พนักงานเสริฟ เพราะว่าเขาผ่านบอลให้เพื่อนทำได้สวยงามมาก วันที่ 11 กรกฎาคม โครส มีชื่อเข้าลุ้นกับทั้งหมด 10 คน รางวัลลูกบอลทองคำสำหรับนักเตะยอดเยี่ยม สื่อได้ทำการประเมินผมให้คะแนนในศึกฟุตบอลโลกและโครสคือนักเตะที่ดีที่สุดในศึกฟุตบอลโลก 2557 โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ 9.79 ของ 10

โทนี่ โครส เยอรมัน 2561

วันที่ 4 มิถุนายน 2561 โครส ยังมีรายชื่อติดใน 23 ขุนพลลุยศึกฟุตบอลโลก 2551 ในวันที่ 23 มิถุนายน โครส ทำประตูสุดท้ายก่อนหมดเวลาเอาชนะทีมชาติสวีเดนไป 2-1 แต่ทั้งนี้เขาได้พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ไป 4-0

โทนี่ โครส รูปแบบทักษะการเล่น

โครส เป็นที่รู้จักมากมาย เช่น จ่ายบอลที่แม่นยำ เทคนิค โอกาสการเข้าทำประตู และการเปิดลูกสั้นและลูกยาวจากการตั้งเตะก็เช่นกัน โจนาทาน วิลสัน ได้พูดถึงเขาว่า “บาทีอาจจะเป็นกองกลางตัวอย่างให้กับเด็กรุ่นใหม่” อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า “เขาเป็นคนขับเคลื่อนและทำงานหนัก” มีร่างกายทีพร้อมและมีความสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถเล่นในตำแหน่งกองกลองตัวรับได้ เขาชอบหาโอกาสให้กับทีมทำประตูอยู่เสมอ ตำนานกองกลางของทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเตด พอลล์ สโคล์ ได้กล่าวว่า “กองกลาง ระดับโลก” และกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ได้กล่าวว่า “โครส ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2557 มันสุดยอดหมดทุกอย่าง การจ่ายบอลที่นิ่งมาก”

โทนี่ โครส ชีวิตประวัติส่วนตัว

โครส เกิดที่เมืองไกรฟ์วาลด์ ในประเทศเยอรมัน วันที่ 4 มกราคม 2533 เขามีน้องชายชื่อว่า เฟลิค โครส เป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน พ่อของเขา “โรแลนด์” ทำงานเป็นโคชให้ทีมสโมสรฮันซ่า รอสต๊อค ตอนที่เขาเป็นวัยรุ่นเขาเป็นแค่นักเรียนธรรมและใช้เวลาในการฝึกซ้อมฟุตบอล ถึงอย่างไรก็ตามเขามีความสามารถที่ดีตอนอยู่โรงเรียน โครส แต่งงานกับแฟนสาวที่คบกันมาอย่างยาวนาน “เจสสิกา ฟาร์เบอร์” เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2558 พวกเขามีลูกชาย ชื่อว่า ลีออง เกิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 และ ลูกสาวชื่อว่า เอมีลี่ เกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559 เขามีบ้านส่วนตัวอยู่ที่เกาะมาร์จอร์กา